ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ /ศรีเทพ /เสมา ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ / ศรีเทพ / เสมา | Page 44

ป้อมหินทางริมคูเมืองด้านตะวันออก ติดกับโรงเรียนพิบูล วิทยาลัยในปัจจุบัน ยังเมืองโบราณในแถบต้นล�ำน�้ำชีและล�ำน�้ำมูลของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได เส้ น ทางนี้ คื อ การติ ด ต่ อ เข้ า สู ่ ชุ ม ชนใน มัณฑละศรีจนาศะ และสามารถเดินทางไปสู่บ้าน เมืองในเขตต้นน�้ำมูลและชี ในพื้นที่ราบสูงของภาค อีสานได้ และยังเดินทางต่อเนื อ ่ งเข้าสู พ ่ น ื้ ที เ ่ ชิงเทือก เขาพนมดงเร็ก ซึ ง ่ มีช อ ่ งเขาลงไปสู ท ่ ร ี่ าบเขมรต� ำ ่ ซึ ง ่ มีอาณาจักรขอมสมัยเมืองพระนครอันรุ ง ่ เรืองตั ง ้ อยู่ วัฒนธรรมแบบขอมจากลุ่มทะเลสาบจึงแพร่ผ่าน เข้ามาทางด้านนี เ ้ ป็นหลัก จนเมืองละโว้สมัยทวารวด ปรั บ เปลี่ ย นมารั บ ฮิ น ดู จ ากเขมรโบราณตั้ ง แต ช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ หรือในสมัยบาปวนจนถึง สมัยบายนในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ จารึกที่ศาลสูงเมืองลพบุรี ตรงกับ พ.ศ. ๑๕๖๕ และ ๑๕๖๘ พระนามในจารึกคือ “พระ บาทกัมรเตงกําตว-อัญศรีสุริยวรรมเทวะ” ซึ่งมีค�ำ ว่า “สุริยวรรม” และตรงกับช่วงเวลาที่พระเจ้าสุริย วรมันที่ ๑ (พ.ศ. ๑๕๔๙-๑๕๙๓) ผู้สร้างปราสาท นครวัดและรวบรวมบ้านเมืองในทะเลสาบเขมร ขึ้นเป็นปึกแผ่นในระดับอาณาจักร และยังเป็นผู้ที่ นับถือพุทธศาสนาแบบมหายาน ไม่รังเกียจหินยาน และยังคงให้ประชาชนนับถือฮินดูดังเดิมได้ ใน 44 ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้/ศรีเทพ/เสมา” จารึกกล่าวถึงการบ�ำรุงอุปถัมภ์นักบวชทั้งที่อยู่ ใน ศาสนาฮินดูและพุทธมหายาน และปรากฏค�ำว่า “ก�ำตวน” แล้วไปโยงเอาค�ำว่า “ตวนหรือต่วน” อัน เป็นค�ำในภาษามลายูที่ ใช้เป็นสรรพนามเรียกญาต ผู้ใหญ่หรือผู้เป็นเจ้าปกครองและโยงให้พ้องกับ ต�ำนานว่าเป็นกษัตริย์ที่มาจากราชวงศ์ตามพรลิงค นครศรีธรรมราช พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ นี้สันนิษฐานว่าน่า จะเป็นกษัตริย์จากบ้านเมืองในกลุ่มรัฐฟูนัน ทาง สามเหลี่ยมปากแม่น�้ำโขงที่สัมพันธ์กับทางศรีวิชัยท มักอ้างที่มาว่าสืบมาจากไศเรนทรวงศ์ ซึ่งพิจารณา แล้วไม่น่าจะเป็นกษัตริย์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองใน ช่วงเวลาเดียวกันกับที่เมืองละโว้ แต่มีชื่อพ้องกัน และน่าจะเป็นกษัตริย์ท้องถิ่นแห่งละโว้เอง อิ ท ธิ พ ลวั ฒ นธรรมในศาสนาพุ ท ธแบบ เศียรพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ได้รับอิทธิพลศิลปะ แบบบายนในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ฯ