ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ /ศรีเทพ /เสมา ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ / ศรีเทพ / เสมา | Page 32
ขุดแต่งอย่างเป็นระบบเรียบร้อยแล้ว คงเป็นเมือง
ส�ำคัญของมัณฑละศรีจนาศะ อันเป็นมหานครสมัย
ทวารวดีท ส ี่ มบูรณ์ท ส ี่ ด ุ ในบรรดาเมืองนครร่วมสมัย
ในดินแดนประเทศไทย
การขุ ด แต่ ง และบู ร ณะโบราณสถานทั้ ง
ภายในเมืองและรอบนอกของเมืองที ส ่ ภาพแวดล้อม
ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ยังไม่ถูกรบกวน
จากการพัฒนาทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยวหรือแม้แต่การเป็นมรดกโลกนั้น เผยให
เห็นโครงสร้างทางผังเมืองที่เป็นมหานครและปุระ
อันประกอบด้วยเมืองที่มีคูน�้ำล้อมรอบชั้นนอกและ
ชั้นใน ที่มีพื้นที่รอบนอกโดยเฉพาะทางตอนเหนือ
ที่มีศาสนสถานคลังนอกเป็นศาสนสถานที่ส�ำคัญ
อันแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวเมืองและ
ปริมณฑลของนครขนาดใหญ่ เช่นเดียวกันกับเมือง
นครชัยศรีอันเป็นเมืองนครในลุ่มน�้ำล�ำคลองและ
เป็นเมืองท่าใกล้ทะเล
ณ เมืองศรีเทพ เราได้เห็นต�ำแหน่งของ
ศาสนสถานส�ำคัญภายในเมืองและนอกเมืองเช่น
เดียวกันกับเมืองนครชัยศรี คือศาสนสถานคลังใน
และคลังนอกของเมืองศรีเทพ เปรียบกับพระมหา
สถูปพระประโทนกลางเมืองนครชัยศรี กับพระประ
ธมหรือปฐมเจดีย์นอกเมือง อันเป็นศูนย์กลางของ
การจาริกแสวงบุญและการประเพณีกราบไหว้บูชา
ในเวลานักขัตฤกษ์ในรอบป
เมืองเสมาและจารึกศรีจนาศะ
จากการศึกษาร่องรอยของเมืองโบราณ
เพื่อดูพัฒนาการทางการเมืองของรัฐของอาจารย
มานิต วัลลิโภดม ที่สืบต่อมาจนถึงสมัยข้าพเจ้า พบ
ว่าบรรดาบ้านเมืองภายในตามเส้นทางการค้าทาง
คมนาคมที เ ่ กิดขึ น ้ แต่พ ท ุ ธศตวรรษที่ ๑๓ เป็นต้นมา
นั น ้ มีการสร้างเครือข่ายรวมตัวกันเป็นมัณฑละหรือ
32
ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้/ศรีเทพ/เสมา”
สหพันธรัฐภายในขึ้น ในนามของ “ศรีจนาศะ”
ที่มาของชื่อศรีจนาศะมาจากศิลาจารึกสอง
หลัก หลักหนึ ง ่ พบที เ ่ มืองเสมา ต�ำบลบ่ออีกา อ�ำเภอ
สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา อีกหลักหนึ ง ่ พบที่โบสถ
พราหมณ์ ในเมืองพระนครศรีอยุธยา
จารึ ก จากบ่ อ อี ก าใช้ อั ก ษรขอมโบราณ
ภาษาสันสกฤตและเขมร พ.ศ. ๑๔๑๑ มีสองด้าน
ด้านแรกกล่าวถึงพระราชาธิบดีแห่งศรีจนาศะทรง
อุทิศทาสและสัตว์ให้พระภิกษุสงฆ์เพื่อมุ่งหวังพระ
โพธิญาณและด้านที ส ่ องกล่าวถึงการบูชาสรรเสริญ
พระศิวะของบุคคลหนึ ง ่ ชื อ ่ อังศเทพ ในดินแดนที อ ่ ยู่
นอก “กัมพูชาเทศะ” ส่วนศิลาจารึกหลักที่สองซึ่ง
พบที่อยุธยา พ.ศ. ๑๔๘๐ หลังจารึกหลักแรก ๓๙
ปี กล่าวถึงพระราชาแห่งจนาศะปุระ หลายรัชกาล
เริ่มแต่องค์แรกทรงพระนาม ภัคทัตต์ องค์ต่อมา
คือ สุนทรปรากรม และ สุนทรวรมัน พระเจ้าสุนทร
วรมันมีโอรส ๒ องค์ องค์แรกทรงพระนาม นรปต
สิงหวรมัน ผู้เป็น พระราชาของเมืองจนาศะปุระ
ส่วนองค์น้องทรงพระนาม มงคลวรมัน เป็นผู้สร้าง
จารึกหลักนี้เพื่อฉลองการสร้างรูปพระมารดาเป็น
พระอุมาเทว
ความต่างกันระหว่างชื อ ่ ของจนาศะในจารึก
ทั้งสองหลักก็คือ หลักแรกที่พบที่เมืองเสมานั้น พูด
ถึงพระราชาแห่งศรีจนาศะ ซึ่งมีลักษณะเน้นความ
ส�ำคัญอยู่ที่พระมหากษัตริย์ คล้ายๆ กันกับจารึกท
กล่าวถึง พระผู้เป็นใหญ่แห่งศรีทวารวด
ดังนั้น ค�ำว่า ศรีจนาศะ หมายถึงแว่นแคว้น
ที่เป็นมัณฑละ
ในขณะที จ ่ ารึกหลักที ส ่ องพบที อ ่ ยุธยากล่าว
ถึง พระนามของพระมหากษัตริย ผ ์ ค ้ ู รองจนาศะปุระ
ซึ่งหมายถึงเมืองที่ชื่อ จนาศะ เหตุนี้จึงมีนักวิชาการ
หลายท่านรวมทั้งข้าพเจ้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ รศ. ดร.
ธิดา สาระยา เสนอว่าเมืองศรีเทพในลุ่มน�้ำป่าสัก
จังหวัดเพชรบูรณ์ คือ เมืองจนาศะปุระ แต่ข้าพเจ้า