ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ /ศรีเทพ /เสมา ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ / ศรีเทพ / เสมา | Page 20

พระนารายณ์ ข นาดเล็ ก พบ ที่ ศ าลสู ง ๒ องค์ และเก็ บ รั ก ษาไว ในพิพิธภัณฑ์องค์หนึ่ง รูปแบบคล้าย กั บ เทวรู ป พระนารายณ์ รุ่ น เก่ า จาก นครศรีธรรมราชและไชยา ซึ่งพบอีกท ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร เมืองอู่ทอง และ ศาลหลักเมืองสุพรรณบุร เฉียงเหนือตามที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นการมีพื้นท ติดต่อกับบ้านเมืองต่างๆ ที่กว้างขวางกว่าเมือง นครชัยศรีหรือนครปฐมโบราณ นครชัยศรีแม้จะเป็นเมืองทางน�้ำที่มีขนาด ใหญ่และเจริญกว่าด้วยแหล่งศาสนสถานและศิลป วัฒนธรรมในสมัยทวารวดีก็ตาม แต่ก็ต้องโรย ร้างและเปลี่ยนสภาพเล็กลง อันเนื่องจากเส้นทาง คมนาคมทางน�้ำเปลี่ยน ชุมชนบ้านเมืองจึงเปลี่ยน ต�ำแหน่งที ต ่ ง ั้ ตามไป ต่างกันกับเมืองละโว้ท เ ี่ ส้นทาง คมนาคมทั้งทางน�้ำ ทางบก และเครือข่ายของบ้าน เมืองยังด�ำรงอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ท�ำให้ต้องหันมาทบทวนต�ำแหน่งที่ตั้งของ เมืองแต่สมัยทวารวดีจากจดหมายเหตุการเดินทาง ของ หลวงจีนฟาเหียน หลวงจีนเหี้ยนจัง และหลวง จีนอี้จิง อีกครั้ง โดยใช้แนวระนาบความสัมพันธ ตะวันตก-ตะวันออกว่า ในพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ นั้น มี “แคว้นหลั่งยะสิว” อยู่ทางตะวันออกของ “แคว้นศรีเกษตร” ถัดไปทางตะวันออกของหลั่งยะ สิว คือ “โตโลโปตี” ที่หมายถึงทวารวดี อีศานปุระ 20 ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้/ศรีเทพ/เสมา” และมหาจามปา แต่ทวารวดีคือชื่อของแคว้นหรือมัณฑละท ตัวเมืองส�ำคัญในพุทธศตวรรษที่ ๑๒ คือ “ลวปุระ หรือเมืองละโว้” เป็นศูนย์กลางของมัณฑละที่พระ มหากษัตริย์ผู้เป็นพระประมุขประทับอย ส่วนทางต�ำนานจามเทวีวงศ์ ชินกาลมาล ปกรณ์ และมูลศาสนา ทางเมืองหริภุญชัยกล่าวว่า พระฤๅษีวาสุเทพผู้สร้างนครหริภุญชัยส่งทูตมายัง พระจักรพรรดิผู้ครองละโว้ ขอพระนางจามเทว พระราชธิดาไปปกครองเมืองหริภุญชัยและเมือง ละโว้ ในสมัยเวลาต่อมาหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๒- ๑๓ แล้ว เกิดสงครามชิงเมืองขึ้น โดยกษัตริย์จาก หริภุญชัยยกทัพมาท�ำสงครามชิงเมือง ในขณะท ท�ำสงครามนั้นก็มีกษัตริย์จากนครศรีธรรมราชยก กองทัพขึ น ้ มายังเมืองละโว้ ตีเข้าเมืองละโว้ได้ท ำ � ให กษัตริย์ของเมืองละโว้ต้องรีบยกกองทัพขึ้นไปยึด เมืองหริภุญชัยแทน โดยไม่มี ใครทราบว่ากษัตริย จากเมืองหริภุญชัยไปอยู่ ณ ที่ใด เหตุการณ์ในต�ำนานครั้งนี้ นักโบราณคด