ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ /ศรีเทพ /เสมา ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ / ศรีเทพ / เสมา | Page 17

และสุวรรณภูมิ ซึ่งแสดงให้เห็นจากหลักฐานการ ขุดค้นทางโบราณคดีที่ต�ำบลท่าแค ต�ำบลห้วยโป่ง เมืองซับจ�ำปา จังหวัดลพบุรี บ้านใหม่ชัยมงคลท จันเสน จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น ชุมชนบ้านเมืองเหล่านี้ในยุคเหล็กหาได้อยู โดดเดี่ยวไม่ หากมีความสัมพันธ์กับการค้าระยะ ไกลจากแหล่งอารยธรรมยุคส�ำริดจากทางยูนนาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากรูปแบบของอาวุธและเครื่อง มือเครื่องใช้ ตลอดจนเครื่องประดับ เช่น รูปแบบ ของขวานส�ำริด กลองส�ำริด ก�ำไลส�ำริด ตุ้มห ลูกปัดที่ท�ำด้วยหินสี หินกึ่งหยก สิ่งที่โดดเด่นที่สุด ของแหล่งโบราณคดีที่บ้านท่าแค ซึ่งนอกจากเป็น แหล่งอุตสาหกรรมทองแดงและเหล็กแล้ว ยังเป็น แหล่งผลิตเครื่องประดับด้วยหอยทะเลลึก เช่น หอยมือเสือและหอยสังข์ การใช้เปลือกหอยทะเล ลึกท�ำเครื่องประดับและเป็นวัตถุมงคลนี้ เป็นสิ่ง สากลของบรรดาบ้านเมืองโบราณที่มีความสัมพันธ การค้าระยะไกลโพ้นทะเลมาราว ๓,๐๐๐ ปีทีเดียว จากรู ป แบบของโบราณวั ต ถุ เช่ น เครื่ อ งปั ้ น ดิ น เผาที่ ใ ช้ ใ นการเซ่ น ศพซึ่ ง พบตาม แหล่งฝังศพในพื้นที่ลุ่มน�้ำลพบุรี-ป่าสักนั้น มีความ คล้ า ยคลึ ง กั บ รู ป แบบของกลุ ่ ม วั ฒ นธรรมแบบ ซาหวิ่งห์อันเป็นบรรพบุรุษพวกจามในเวียดนาม คน เหล่านี้เป็นพวกพ่อค้าระยะไกลทั้งทางบกและทาง ทะเล และเป็นกลุ่มชนที่น�ำพาเครื่องประดับและ รูปแบบของศิลปะแบบดองซอนแพร่ไปตามชุมชน ต่างๆ ที่อยู่ชายฝั่งทะเลจีน ซึ่งรวมทั้งประเทศไทย ด้วย เช่นเดียวกันกับเมืองอู่ทองและชุมชนทางฟาก ตะวันตกและฝั่งอันดามันของลุ่มน�้ำเจ้าพระยาที่ม การเกี่ยวข้องกับอินเดียในสมัยสุวรรณภูมิ คือราว พุทธศตวรรษที่ ๒-๓ ลงมา บ้านเมืองทางฟากฝั่ง เมืองละโว้ก็มีความสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน แต่ไม่มาก เท่ากับทางฝั่งเมืองอู่ทอง หลักฐานที่แสดงให้เห็นก็คือบรรดาภาชนะ ดินเผาสีด�ำที่มีการขัดผิวและประดับด้วยลายเส้น เบาๆ ที่ ไ ม่ กิ น ลงไปถึ ง พื้ น ผิ ว ภาชนะ เป็ น สิ่ ง ที ศาสตราจารย์วิลเฮล์ม จี. โซลไฮม์ (Prof. Wilhelm G. Solheim) จากมหาวิทยาลัยฮาวาย สหรัฐอเมริกา พบเห็นจากการขุดค้นแหล่งโบราณคดี ในที่ราบสูง โคราช โดยเฉพาะในชั้นดินชั้นล่างของปราสาทหิน พิมาย โซลไฮม์ให้ชื่อภาชนะดินเผานี้ว่า พิมายด�ำ [Phimai Black] มีอายุราว ๕๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ลงมา เป็นรูปแบบที่พบตามแหล่งโบราณคดี ใน ประเทศอินเดีย ได้มีการพบเห็นภาชนะแบบพิมาย ด�ำนี้ในที่อื่นๆ เช่นที่ เมืองจันเสน ซับจ�ำปา และ ศรีเทพ จากอิทธิพลของการค้าระยะไกลทั้งทางบก และโพ้นทะเลทางฝั่งอ่าวไทยและทะเลจีน ท�ำให้ม พัฒนาการของเมืองท่าทางชายขอบที่สูงทางฟาก ตะวันออกของลุ่มน�้ำเจ้าพระยาหลายเมืองตั้งแต สมัยฟูนันลงมา เช่น เมืองอู่ตะเภาที่ต�ำบลหางน�้ำ สาคร เมืองจันเสน เมืองละโว้ และเมืองขีดขิน จังหวัดสระบุร เมืองละโว้ : ศูนย์กลางของเส้นทางคมนาคมทั ง ้ ทางบกและทางน� ำ ้ ที ต ่ ด ิ ต่อไปยังดินแดนภายใน ทางเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือ ความสัมพันธ์ก บ ั บ้านเมืองที อ ่ ยู ท ่ างเหนือได กล่าวไปแล้ว ส่วนที่ไปทางตะวันออกยังลุ ม ่ น� ำ ้ ป่าสัก และที่ราบสูงโคราชนั้นมีหลายเส้นทาง ที่ส�ำคัญก คือเส้นทางที่ขึ้นไปตามล�ำน�้ำลพบุรี จาก หน้าเมือง ผ่านทุ่งพรหมมาสตร์ ไปเขาสมอคอนและวัดไลย เข้าบางขามไปยังต�ำบลมหาสอนและบางพึ่ง ผ่าน “เมืองวังไผ่” ที่อยู่ตรงทางแยกของแม่น�้ำที่จะไป ทางเหนือ แต่ไม่ไป กลับหักขึ้นไปทางตะวันออกยัง บ้านหมี่ เดินทางบกตามล�ำน�้ำเข้าสู่พื้นที่สูงอันเป็น บริเวณต้นน�้ำลพบุรี ผ่านชุมชนโบราณที่เป็นสมัย มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธ 17