เยี่ยมยามเมืองจันทบูร เมืองท่าอันมีพลวัตทางประวัติศาสตร์ต่อสยามประเทศ | Page 42

คลองท่าช้างด้านเหนือ กล่าวกันว่าเคยมีอยู ห ่ ลายร้อยหลุม จนกระทั่งต้องท�ำค่ายทหารจึงเวนคืนที่ดินฮวงซุ้ยเหล่านั้น ออกไป ปัจจุบ น ั พบว่ายังมีฮวงซุ ย ้ ของตระกูลสุนทรเวชอยู่ หลังหนึ ง ่ ในเขตค่ายตากสิน ซึ ง ่ อยู แ ่ ถบแนวตะพักเนินดินดัง กล่าว จารึกบนป้ายหลุมศพ กล่าวถึงช่วงเวลาในการฝังท หลุมนี้อยู่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๓๑๓ (ขึ้น ๑ ค�่ำ เดือน ๑๑ ป เกอิ น ๊ ฤดูเก็บเกี ย ่ ว แผ่นดินไต้เช็ง ที ฝ ่ ง ั ศพของภรรยาหลวง แซ่ลี้ ของตระกูลแซ่ตัน บุตรชายเซยฮุยกับเม่าเตี้ยน ร่วม กันสร้าง) นอกจากนี้ยังค้นพบอีกว่าบริเวณสวนแนวตะพัก เดียวกันยังมีหลุมฝังศพที่น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน อีก ๒-๓ หลุมหลงเหลืออย ความส�ำคัญของ “เมืองจันทบูร” จนกลายเป็นท รู จ ้ ก ั กันทั ว ่ ประเทศส�ำหรับผู ส ้ นใจทางประวัต ศ ิ าสตร์ค อ ื การ หลุมฝังศพของตระกูลสุนทรเวช ซึ่งเป็นคนจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ซึ่งอพยพมาจากเมืองในโคชินจีนหรือบริเวณสามเหลี่ยมแม่น�้ำโขง ภายในค่ายตากสิน ก�ำหนดอายุเก่าไปถึง พ.ศ. ๒๓๑๓ 42 คู่มือ “เยี่ยมยามเมืองจันทบูร” เมืองท่าอันมีพลวัตทางประวัติศาสตร์ต่อสยามประเทศ ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ครั้งมารวบรวมไพร่พลกลับไปก กรุงศรีอยุธยา เมื อ ่ ครั ง ้ กรุงฯ แตก เมื อ ่ เจรจาต่อรองกับเจ้า เมืองจันทบูรไม่ส�ำเร็จและถูกหลอกล่อถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ จึงปรารภเปรียบเปรยแก่ไพร่พลที่วัดแก้วริมเมืองจันทบูร ว่า “ให้ทุบหม้อข้าวหม้อแกงเสียให้สิ้น ต้องเข้าตีให้ส�ำเร็จ สถานเดียว” พระเจ้าตากสินฯ พร้อมกองก�ำลังพลพรรคทั ง ้ มวล บุกเข้าโจมตีเมืองจันทบูรทุกด้านในดึกคืนนั้นแล้วยึดเมือง จันทบูรได้ ส่วนพระยาจันทบูรพาลูกเมียหนีลงเรือเดินทะเล เลียบชายฝั ง ่ ไปยังเมืองพุทไธมาศหรือบันทายมาศหรือเมือง ฮ่าเตียนในประเทศเวียดนามปัจจุบัน ทุกวันนี้แม้จะมีเอกสารบันทึกเรื่องเล่าโดยหลวง สาครคชเขตต์ในต�ำแหน่งวัดแก้วว่า “วัดแก้วหรือวัดป่าแก้ว ตั ง ้ อยู ภ ่ ายนอกก�ำแพงเมืองทางด้านหลังของค่ายทหารที ต ่ ง ั้ เป็นกองร้อยทหาร ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในภายหลังเดี๋ยวนี้แห่ง หนึ่ง และวัดป่าแก้วนี้เองปรากฏว่า เคยเป็นที่ชุมนุมพล ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน (พระเจ้ากรุงธนบุร ) ี ก่อนที ท ่ รง ยกก�ำลังเข้าตีเมืองจันทบุรีในเวลานี้ ซากของวัดแห่งนี พ ้ อท จะเห็นได้ก ค ็ อ ื ยังมีฐานแท่นพระอุโบสถเป็นส�ำคัญอยู บ ่ า ้ ง” สอดคล้องกับค�ำบอกเล่าของชาวบ้านท่าช้างคือ คุณยาย เนียม รัตนไพร สิ้นเคราะห์ อายุ ๙๑ ปี (บ้านเลขที่ ๔ หม ๓ ต�ำบลท่าช้าง อ�ำเภอเมืองฯ จังหวัดจันทบุรี สัมภาษณ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ซึ่งเป็นชาวบ้านท่าช้างมาแต่ดั้งเดิม และมีสามีเป็นทหารม้าในสมัยนั น ้ เล่าว่าเมื อ ่ ตนยังเป็นเด็ก พ่อแม่พากันมาท�ำบุญส่งทุ่งที่ “วัดแก้ว” ซึ่งชี้จุดได้ตรงกัน กับที่หลวงสาครคชเขตต์ระบุไว้ คืออยู่นอกเมืองทางด้าน เหนือของแนวก�ำแพงเมืองที่ห่างออกไปราว ๒๐๐ เมตร ทุกวันนี้ซากอาคารของวัดแก้วนั้นไม่หลงเหลืออยู่ เพราะ สร้างอาคารเรือนแถวยาว และเหลือเพียงฐานศิลาแลงเป็น แนวตัวอาคาร หินทรายหินปูนถูกล�ำน�้ำพัดพาจนมนไม่ม เหลี ย ่ มน่าจะลอกมาจากล�ำน� ำ ้ ท่าช้างนี ท ้ ช ี่ าวบ้านแถบนี เ ้ คย ย่อยหินขาย ใช้เป็นพื้นฐานอาคารเพื่อสร้างความแข็งแรง และชิ้นส่วนอิฐดินเผาและชิ้นส่วนกระเบื้องดินเผาส�ำหรับ เป็นอาคารโบราณสถาน เศษภาชนะเนื้อแกร่งจ�ำนวนมาก