เยี่ยมยามเมืองจันทบูร เมืองท่าอันมีพลวัตทางประวัติศาสตร์ต่อสยามประเทศ | Page 30
ภาพวาดเรือส�ำเภาสามเสาย่านชายฝั่งทะเลจันทบูร
ภาพจากแวริงตัน สมิธ (ห้าปีในสยาม)
แหลมสิงห์ ปากน�้ำจันทบูร
ปากน�้ำจันทบูรหรือที่มักเรียกว่า “ปากน�้ำแหลม
สิงห์” เนื่องจากทางฝั่งปลายแหลมด้านตะวันตกที่ติดกับ
ทะเล มีก อ ้ นหินใหญ่ ๒ ก้อน มองจากทะเลจะดูคล้ายสิงโต
ยืนคู่ เป็นที่นับถือบูชาของชาวประมงท้องถิ่น จึงเรียกกัน
ว่าแหลมสิงห์ เล่ากันเป็นสองกระแสว่า เมื่อก่อนสิงห์คู่น
ไม่มี แต่บนเขามีสิงโตจริงๆ ตัวผู้และตัวเมียอยู่คู่หนึ่ง ไป
ไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ลงอาบน� ำ ้ ทะเลด้วยกัน ต่อมาพวก
ฝรั ง ่ ลอบท�ำร้ายโดยใช้ระเบิดยิงถูกสิงห์ต ว ั หนึ ง ่ ถึงแก่ความ
ตาย อีกตัวหนึ ง ่ จึงวิ ง ่ ลงทะเลทันที พอตายแล้วจึงกลายเป็น
สิงห์ยืนอยู่ริมทะเล ส่วนตัวที่ตายเหลือแต่เพียงซากหินที่ม
เค้าว่าเคยเป็นสิงห์อยู บ ่ า ้ ง แต่เรื อ ่ งเล่าส่วนใหญ่จะกล่าวว่า
สมัยที ฝ ่ รั ง ่ เศสเข้ายึดครองจังหวัดจันทบุรี ใช้ก อ ้ นหินนี เ ้ ป็น
เป้าทดลองปืน ท�ำให้ตัวหนึ่งแตกสลายไปส่วนอีกตัวหัวตก
น�้ำไป จึงเหลือเพียงรูปแบบในปัจจุบันที่ดูแค่คล้ายสิงห
30
คู่มือ “เยี่ยมยามเมืองจันทบูร”
เมืองท่าอันมีพลวัตทางประวัติศาสตร์ต่อสยามประเทศ
เจ้าพระยาพระคลังเจ้าพระยามหาประยูรวงศ
เป็นแม่กองสร้างเมืองจันทบุร ท ี เ ี่ นินวง จมื น ่ ราชามาตย์ (ข�ำ
บุนนาค) ท�ำป้อมที่แหลมด่านป้องกันปากน�้ำ ๑ ป้อม ชื่อ
“ป้อมภัยพินาศ” ที่เขาแหลมสิงห์ป้อมเก่ามีอยู่แล้วจึงท�ำ
ป้อมใหม่ ๑ ป้อม ชื่อ “ป้อมพิฆาตปัจจามิตร” และทางฝั่ง
นี้ในเวลาต่อมาเคยเป็นที่ตั้งของสุสานทหารฝรั่งเศสที่เสีย
ชีวิตที่กองทหารปากน�้ำด้วย
เหตุการณ์ปิดปากน�้ำเจ้าพระยาของกองเรือรบ
ฝรั่งเศสเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ รู้จักกันในเหตุการณ
“วิกฤตการณ์ปากน� ำ ้ ” การปะทะเกิดขึ น ้ ในเดือนกรกฎาคม
พ.ศ. ๒๔๓๖ เมื อ ่ เรือรบฝรั ง ่ เศสแล่นฝ่าเข้าไปในปากแม่น ำ �้
เจ้าพระยา ทั้ง ๓ ล�ำถูกโจมตีโดยป้อมปืนของสยามและ
เรือปืน ผลการรบ ฝรั่งเศสสามารถด�ำเนินการปิดล้อม
กรุงเทพฯ มีการเจรจาระหว่างกันซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของ
เหตุการณ์ฝรั่งเศสเพื่อเข้ามายึดครองดินแดนในแถบภาค
ตะวันออก