เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น ฯลฯ เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น มหาเภตราฯ | Page 53

ภาพวาดลายเส้นของ Herbert Warrington Smyth บริเวณเขาสามร้อยยอด บัน ทึกส่งต่อกัน มาว่า รู้จักเกาะแก่งและแนวหิน ตลอดจนลมฟ้าอากาศเป็นสมบัต ท ิ ส ี่ ง ่ ผ่านกันมาโดย ไม่ต้องใช้เข็มทิศแบบฝรั่ง ต้นหนจะสังเกตฝั่งและ แหลมเป็นจุดหมาย จึงพบเส้นทางต่างๆ มากมาย และแทบจะคาดการณ์ไม่ผิดเลย เพราะมีหนังสือ น�ำทางสามารถกระทั ง ่ หลบหลีกหินโสโครก ทางเข้า ท่าเรือและแนวหินได้ถูกต้อง การรู้จักกระแสลมคือความรู้ส�ำคัญในการ เดินเรือเลียบชายฝั่ง จะมีช่วงเวลาในการเดินทาง เข้าออกในรอบปี เช่น ช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภา พันธุ์-มีนาคม จะเป็น ลมอุตราหรือลมอุกา หรือ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลมมรสุมที่พัดจาก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะ พัดร่วมกับลมเหนือหรือลมว่าวหรือบางครั้งจะพัด ร่วมกับ ลมตะวันออกและลมหัวเขา เป็นช่วงซึ่งเรือ ส�ำเภาจะเข้ามายังอ่าวภายใน ลมสลาตันคือลมมรสุม พัดจากทิศใต้ขึ้นไป ทางเหนือ พัดร่วมกับ ลมพัทธยา เป็นลมที่พัดจาก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วน ลมตะเภา พัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ไป ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ช่วงในราวเดือนเมษายน- พฤษภาคมจนถึงกันยายน และ ลมพัดหลวงหรือลม ตะโก้ พัดจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปทางทิศตะวัน ออกเฉียงใต้ก็จะพัดอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน นอกจากชาวประมงพื้นถิ่นภายในอ่าวไทย ซึ่งคงมีอยู่ไม่มากนัก ความรู้เรื่องลมต่างๆ เหล่า นี้ค่อยๆ เลือนหายไป เพราะการค้าส�ำเภาหลวง เปลี่ ย นมาใช้ เ รื อ ก� ำ ปั ่ น แบบตะวั น ตกเมื่ อ พ.ศ. ๒๓๗๘ และเปลี ย ่ นมาเป็นเรือกลไฟซึ ง ่ สามารถสร้าง ได้ในสยามเอง เมื อ ่ พ.ศ. ๒๓๙๘ ท�ำให้การใช้ส ำ � เภา เดินเรือเลียบชายฝั ง ่ แบบเดิมตามฤดูกาลในแถบคาบ สมุทรค่อยๆ หมดไป การค้าต่างประเทศในสมัยกรุงศรีอยุธยาใช เรือส�ำเภาเป็นหลัก พระไอยการต�ำแหน่งนาพลเรือน มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธ 53