สำรวจอโยธยากับอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม สำรวจอโยธยากับอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม | Page 12

พระพุทธรูปยืนแบบสุโขทัย ที่วัดตะพานหิน นอกเมืองเก่าสุโขทัย ละโว้ แ ละเสี ย มหรื อ สยามต่ า งก็ อ ยู ่ ใ น ภาคกลางของประเทศไทยเหมือนกัน จนในพุทธ ศตวรรษที่ ๑๙ จดหมายเหตุจีนในราชวงศ์หมิง กล่าวว่า “เสียมก๊ก” และ “หลอฮกก๊ก” รวมกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกันกับหลัก ฐานในพงศาวดารกรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยาที่ ว ่ า “สมเด็ จ พระรามาธิบดีที่ ๒ (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงเป็นพระ ราชบุตรเขยของกษัตริย์แห่งสุพรรณภูมิ” ข้อความแสดงให้เห็นว่า “เสียม” หมาย ถึง “สุพรรณภูมิ” ในขณะที่จีนยังเรียกทาง “หลอ ฮก” หรือ “ละโว้” อยู่ ทั้งๆ ที่ในช่วงพุทธศตวรรษ ที่ ๑๙ นั้น หมายถึง “กรุงศรีอยุธยา” และ “พระ มหากษัตริย์ผู้ครองรัฐนี้ก็มีสองราชวงศ์” ผลัดกัน ปกครองในลักษณะของการกินดองกันทางเครือ ญาต 12 สำ�รวจอโยธยากับอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม จนกระทั่งปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ลงมา สมัย “สมเด็จพระนครินทราธิราช” แห่ง “ราชวงศ สุพรรณภูมิ” ก็ได้ครองอ�ำนาจเป็นพระมหากษัตริย แห่งกรุงศรีอยุธยาเพียงพระราชวงศ์เดียว ขณะที่กษัตริย์ราชวงศ์ละโว้แตกไปอยู่ทาง เมืองพระนครหรือกัมพูชาแทน ท�ำให้เกิดสงคราม กับเมืองพระนครระหว่างสมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ กับ อาณาจักรเมืองพระนครที่เกี่ยวดองกับพระมหา กษัตริย์ราชวงศ์ละโว้ จนในที่สุดกองทัพสยามจาก กรุงศรีอยุธยาก็ตีเมืองพระนครแตก ได้กวาดต้อน เทครัวของผู้คน ขุนนาง และชีพราหมณ์ รวมทั้ง สมบัติที่มีค่ามายังพระนครศรีอยุธยา ท�ำให้กษัตริย ทางเมืองพระนครต้องย้ายเมืองส�ำคัญไปตั้งใหม ริมแม่น�้ำโขงในเขตพนมเปญ