สำรวจอโยธยากับอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม สำรวจอโยธยากับอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม | Page 11

เช่น “กัมพูชาเทศะ” ที่มีมาก่อนแล้ว ซึ่ง หมายถึ ง เขตแดนที่ ก ว้ า งใหญ่ ข องอาณาจั ก รใน กัมพูชาที เ ่ ข้ามาถึง “เมืองเสมา” ในแคว้นศรีจนาศะ เป็น “ดินแดนนอกเขตกัมพูชาเทศะ” ซึ่งรวมทั้งลุ่ม น� ำ ้ มูลชีและบ้านเมืองในภาคกลางของสยามประเทศ ก็อยู่นอกอ�ำนาจทางการเมืองของกัมพูชาเทศะเช่น กัน ตั ง ้ แต่พ ท ุ ธศตวรรษที่ ๑๗ เป็นต้นมา ดินแดน ในประเทศไทย ถูกเรียกว่า “สยามเทศะ” หรือ “สยามประเทศ” ดังมีการกล่าวถึงในจดหมายเหต จีนสมัยราชวงศ์ซุ้ง หยวน และหมิง ตามล�ำดับ รวม ทั ง ้ ในจารึกนครวัดในสมัยของพระเจ้าสุร ย ิ วรมันที่ ๒ ที่กล่าวถึงกองทหารที่ไปจากเสียมและละโว้ในพุทธ ศตวรรษที่ ๑๘ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม องค์ระฆังฐานสูงที่วัดแก้ว เมืองสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท กลุ่มคนผู้เข้ามาใหม่และ “สยามเทศะ” มีหลักฐานหลายอย่างทั้งในทางโบราณคด และเอกสารทางประวั ติ ศ าสตร์ ที่ ท� ำ ให้ เ ห็ น การ เคลื่อนย้ายของผู้คนหลายชาติพันธุ์ ศาสนา และ วัฒนธรรม เข้ามาตั้งถิ่นฐานตามเมืองใหม่ที่เกิดขึ้น และมีการผสมผสานทางสังคมวัฒนธรรมกับผู ค ้ นใน บ้านเมืองเก่าที่มีมาก่อนแล้ว กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่นับได้ว่าเป็นชนชาติท ส�ำคัญก็คือกลุ่ม “ไท-ลาว” ใช้ภาษาไทยเป็นภาษา ส�ำคัญในการสื อ ่ สารกันทางสังคมและเศรษฐกิจแทน ภาษาเดิมใน “ตระกูลภาษามอญ-เขมร” ที่มีมาแต เดิม เกิดบ้านเมืองใหม่ๆ ที ใ ่ ช้ภาษาไทยเป็นสื อ ่ กลาง แทนภาษาเก่า เกิดพื น ้ ที ท ่ างวัฒนธรรมและการเมือง ใหม่ในรูปของ “เทศะ” หรือ “ประเทศ” เจดีย์ทรงกลีบมะเฟืองที่วัดมหาธาต เมืองละโว้หรือลพบุร มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธ 11