ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ /ศรีเทพ /เสมา ในมัณฑละแห่งศรีจนาศะ ละโว้ / ศรีเทพ / เสมา | Page 23
จาก “ละโว้” เป็น “ลพบุรี”
เมืองละโว้ยังด�ำรงอยู่และดูกว้างขวางกว่า
เดิมในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๖ ลงมา โดยเรียก
ว่า “ยุคลพบุรี” ถ้าหากน�ำเอาเส้นทางคมนาคม
จากเมืองละโว้ไปยังดินแดนภายในที่เป็น มณฑล
ศรีจนาศะตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น คือจากละโว
ไปศรีเทพ เมืองเสมา ไปยังเมืองฝ้าย และกลุ่มบ้าน
เมืองในลุ ม ่ น� ำ ้ ล�ำปลายมาศ ภูพระอังคาร เข้าสู พ ่ น ื้ ท
เขตวัฒนธรรมขอมในเขตพนมรุ ง ้ และภูปลายบัด ใน
ขณะเดียวกันอิทธิพลของสังคมและวัฒนธรรมขอม
สมัยเมืองพระนครแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๕ ลงมา ก
แพร่ขึ้นมาตามอาณาบริเวณของมัณฑละศรีจนาศะ
ยังลุ่มน� ำ ้ ป่าสักและลพบุรี เหตุน ้ ี จึงพบร่องรอยของ
โบราณสถานและศาสนสถาน ศาสนวัตถุขอมใน
เมืองส�ำคัญ เช่น “เมืองเสมา เมืองศรีเทพ และ
เมืองละโว้” ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ในขณะ
เดียวกัน ก็แลเห็นการเติบโตของบ้านเมืองแต่สมัย
พุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ ลงมา ในรูปที่เกิดเป็น
นครรัฐใหม่ๆ ขึ้น เช่น เมืองพิมาย เมืองพนมรุ้ง
เมืองศามพูกะ ฯลฯ
พอขึ้นต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘ คือ ราว พ.ศ.
๑๗๐๐ ลงมา มัณฑละทวารวดีและศรีจนาศะก็สลาย
ตัวไป มีการรวมกลุ่มของนครรัฐอิสระใหม่ๆ เหล่า
นี้ขึ้นเป็นกลุ่มเมืองแบบมัณฑละใหม่หลายแห่ง เช่น
ในลุ่มน�้ำเจ้าพระยาที่จดหมายเหตุจีนกล่าวถึงรัฐ
ใหญ่ ๒ แห่งที่ส่งทูตไปเมืองจีน คือ “หลอฮก” และ
“เสียม”
“หลอฮกคือละโว้” ในขณะที่ “เสียม” ม
คนตีความกันต่างๆ นานาว่า เป็น “สุโขทัย” โดย
ไปผูกมัดกับเรื่องราวการเคลื่อนย้ายของชนชาต
ไทยจากยูนนานเข้ามาดินแดนประเทศไทย ที่เป็น
อาณานิคมของอาณาจักรขอมเมืองพระนคร เมือง
สุโขทัยในลุ ม ่ น� ำ ้ ยม-น่านถูกยึดครองโดยชนชาติไทย
แล้วตั ง ้ เป็นรัฐอิสระแผ่อ ำ � นาจมาขับไล่ขอมซึ ง ่ อยู่ใน
ลุ่มน�้ำเจ้าพระยาที่มีเมืองละโว้เป็นศูนย์กลางแล้ว
สร้างเมืองอยุธยาขึ น ้ มาแทนที่ สุโขทัยกลายเป็นราช
อาณาจักรที แ ่ ผ่อ ำ � นาจไปปกครองทั ง ้ ประเทศ จนถึง
เมืองนครศรีธรรมราชจรดคาบสมุทรมลาย
แต่ จ ากการศึ ก ษาค้ น คว้ า ทางภาคสนาม
ของข้าพเจ้า ไม่เคยเชื่อถือและยอมรับเรื่องการ
เคลื่อนย้ายของชนชาติไทยจากยูนนานเข้ามาปราบ
ขอม และสร้างสุโขทัยและอาณาจักรไทยขึ้นแทนท
ในดินแดนประเทศไทยเช่นนี้เลย เพราะเป็นการ
ตีความหลักฐานทางประวัต ศ ิ าสตร์จากแนวคิดเรื อ ่ ง
ชาตินิยมที่มีมาแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ แล้วขยายผลจน
ฟุ ง ้ เฟ้อในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบ ล ู สงคราม เป็น
นายกรัฐมนตรี และเชื่อกันมาจนถึงทุกวันน
ท�ำนองตรงข้าม ในที่นี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าบ้าน
เมืองในดินแดนประเทศไทย โดยเฉพาะในลุ่มน�้ำ
เจ้าพระยาที่มี “มัณฑละทวารวดี-ศรีจนาศะ” ด�ำรง
อยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๕ นั้น เกิดการ
เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคของการเกิดบ้านเมืองใหม
ที่เป็นนครรัฐและมัณฑละใหม่แต่พุทธศตวรรษท
๑๖ ลงมา อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทาง
เศรษฐกิจ-การเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงเหนือ ทั้งในหมู่เกาะและคาบสมุทรที่สัมพันธ
กับการล่มสลายของมัณฑละศรีวิชัย สหพันธรัฐ
เมื อ งท่ าในหมู ่ เ กาะและชายทะเลที่ ผู ก ขาดเส้ น
ทางการค้าทั้งทางทะเลและทางบก
ความส�ำคัญของศรีวิชัยก็คือเป็นยุคที่มีการ
แผ่พุทธศาสนามหายานขึ้นไปตามบ้านเมืองต่างๆ
ตามเส้นทางการค้าแต่พ ท ุ ธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔ หลัง
พุทธศตวรรษที่ ๑๔ มัณฑละศรีวิชัยถูกท�ำลายโดย
การรุกของพวกโจฬะทมิฬจากอินเดียใต้ และการ
แพร่หลายของศาสนาฮินดูที่เข้ามาแทนที่ ท�ำให
บรรดาบ้านเมืองซึ่งเกี่ยวข้องไม่ว่าทั้งทางภาคใต
ของไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบ้านเมือง
มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธ
23