เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น ฯลฯ เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น มหาเภตราฯ | Page 61

ภาพมุมกว้างที่เขาสามร้อยยอด กล่าวว่ามีพ่ อค้าชาวเปอร์เซียที่ ไปตั้งถิ่นฐานและ ร�่ำรวยในเมือ งมะริด เมื่อพักที่มะริดได้สองสามวัน ก็เดินทางข้าม ล�ำน�้ำตะนาวศรี เมืองตะนาวศรีเป็น เมืองอุดมสมบูรณ์ม ค ี นราวห้าหกพันครัวเรือน มีชาว สยาม มุสลิมอินเดีย ฮินดู และฝรั่ง เป็นเมืองตั้งใน หุบเขา จากนั น ้ ลงเรือในแม่น ำ �้ ตะนาวศรีมาถึง เมือง จะลัง [Jalang - ซึ่งน่าจะเป็นชื่อเดียวกับ Jalinga ในแผนที่ของชาวตะวันตก] พระเจ้ากรุงสยามให ช้างพลายมาหลายเชือกเพื่อเดินทางข้ามเทือกเขา ตะนาวศรี จาก Jalang ใช้เวลา ๑๘ วันจึงถึงเมือง เพชรบุรีซึ่งมีข้าหลวงมุสลิมออกมาคอยต้อนรับ คณะราชทูต จอห์น ครอว์เฟิร์ด บันทึก ว่าจาก Jalinga จะข้ามเส้นทางน�้ำและลงไปตาม หุบเขาที ม ่ ก ี ระแสน� ำ ้ แรงไปสู เ ่ มืองส�ำคัญซึ ง ่ สังฆราช ปัลเลอกัวซ์เรียกว่า “พริบพรี” หรือเพชรบุรี ๒. เมื่อเดิน ทางจากมะริดไปสู่ Jalinga แล้วข้ามเขาตะนาวศรีเพื่อเข้าสู่เมือง “ปราณ” ซึ่ง นักเดิน ทางจะลงเรือจากปากน�้ำปราณไปยังกรุง ศรีอยุธยา ปราณอยู่บนเส้นทางบกระหว่างเมืองกุย และเพชรบุร ๓. เส้นทางสายที่สามคือจาก Jalinga ไป สิ้นสุดที่ “เมืองกุย” เป็นเมืองที่ติดกับบริเวณเขา สามร้อยยอดด้านที่ติดกับทะเลและมีเกาะหินน้อย ใหญ่จ�ำนวนมาก Kui Point ดูเหมือนจะเป็นสถาน ที่สุดท้ายที่เรือเดินทะเลเข้ามาแวะจอดเช่นที่ท�ำกัน ในสมัยโบราณก่อนจะใช้เรือจากจุดนี้เดินทางไปสู แหลมญวนหรือจะเดินทางเข้าสู่กรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีช่องเขาที่นักเดินทางสมัยอยุธยาเรียก ว่า “เส้นทางสายกุย” โดยใช้เวลา ๑๔ วันเดินทาง จาก Jalinga ถึงเมืองกุย และใช้เวลาเดินทางบก จากกุยถึงปราณใช้เวลา ๑๐ วัน จากปราณถึงเพชร ใช้เวลา ๕ วัน ส่วนสังฆราชแบริทใช้เวลา ๒ วันถึง ปากน�้ำเจ้าพระยา จากปากน�้ำเจ้าพระยาใช้เวลา ๕-๖ วันถึงอยุธยา [Relation du Voyage de Mon- seigneur de Berythe&C, 1683] ๔. จากเมืองมะริดถึง Jalinga จากนั้น ตัดข้ามเขาเข้าไปยัง “ชะอ�ำ” บริเวณชะอ�ำนี่เอง ที่ปรากฏในแผนที่ของชาวตะวันตก โดยระบุเป็น ต� ำ แหน่ ง ส� ำ คั ญ อย่ า งเห็ นได้ ชั ด คื อ ต� ำ แหน่ ง ของ มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธ 61