เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น ฯลฯ เที่ยวตามตำนาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น มหาเภตราฯ | Page 32

แล้วก็พบว่า น่าจะแสดงถึงเหตุการณ์ตอนใดตอน หนึ่งในพุทธประวัติอันเป็นเรื่องราวชาดก โดยม ภาพพระพุทธรูปนั่งตรงกลางที่เหลือแต่เพียงร่อง รอยประภามณฑลที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นพระพุทธ รูปนั่ง ส่วนพระพุทธรูปยืนนั้นอยู่เบื้องขวาของพระ ประธาน และภาพบุคคลที่จูงมือหรือจับมือกันอยู ทางเบื้องซ้าย บุคคลที่สูงกว่านุ่งผ้าที่ทาสีแดงชาด และสียังคงสดใส มีสายคล้องไหล่เฉวียงบ่าที่ ไหล ซ้าย มีป ม ่ ุ ปมที ห ่ ว ั ไหล่ช ด ั เจน ซึ ง ่ อาจจะเป็นสายธุร ำ � หรือสายยัชโญปวีตที แ ่ สดงความเป็นพราหมณ์ และ ใส่ต่างหูยาว ผมมุ่นมวยไว้ด้านบน ส่วนบุคคลที่ถูก จูงมือนั้นส่วนล�ำตัวสูญหายไปเสียหมดแล้ว ภาพระหว่างกลางเหลือเพียงประภามณฑล ร่องรอยมีการ กะเทาะออกชัดเจน ด้วยต�ำแหน่งและขนาดตลอดจน รูปลักษณ์ของประภามณฑลสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็น พระพุทธรูปนั่งแบบขัดสมาธ ความส�ำคัญในข้อสันนิษฐานดังกล่าวนี้ เพราะแม้จะ มีอิทธิพลพุทธศาสนาแบบมหายานในชุมชนโบราณ ย่านเมืองคูบัวที่สัมพันธ์กับภาพปูนปั้นในถ�้ำนี้อย่าง แน่นอน โดยพิจารณาจากรูปแบบโครงร่างในการ ปั้นรูปลักษณ์พระวรกายที่มีความผอมบางและสูง ชะลูดคล้ายคลึงกับงานปูนปั้นพระโพธิสัตว์ประดับ ฐานเจดีย์จากโบราณสถานที่คูบัวเป็นส�ำคัญ แต่ก ยังไม่เคยเห็นหรือจะมีข อ ้ มูลอื น ่ ใดที แ ่ สดงถึงอิทธิพล ของพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นที่นิยมจากจีนแผ่นดินใหญ จะเข้ามามีบทบาทต่อพุทธศาสนาในแถบนี จ ้ นถึงต้อง ปั้นพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นไว้ในถ�้ำเขาน้อยแห่งน อีกทั้งเมื่อพิจารณาองค์ประกอบของภาพ 32 ภาพบุคคลสองคน คนหนึ่งด้านซ้ายรูปร่างเตี้ยกว่าจน สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเด็กและอีกบุคคลด้านขวาสูงกว่าและ น่าจะเป็นเพศชาย แต่ส่วนล�ำตัวจนถึงเท้าหักหายไป บุคคล ทั้งสองจูงมือกัน (คงกลายเป็นชื่อถ�้ำที่เรียกกันอย่างล�ำลอง ว่า ยายจูงหลาน) เที่ยวตามตำ�นาน เพชรบุรีที่ยังไม่เคยเห็น มหาเภตรา-เจ้าลาย-ตาม่องไล่-เจ้ากรุงจีน