ทดลองอ่าน A Passage to India | Page 17

มีเรื่องส�ำคัญก็ได้นะ นายไม่มีทางรู ้หรอก ” ฮามิดุลลาห์พูดอย่างประนี- ประนอมเพื่อให้อาศิศยอมไป “ นายไปแปรงฟันเสียก่อนดีไหม เพิ่ง กินหมากไป ”
“ ถ้าต้องแปรงฟันก่อน ผมก็ไม่ไปละ ผมเป็นคนอินเดีย นิสัย คนอินเดียชอบกินหมากนี่นา หัวหน้าแพทย์เห็นจะต้องทนกับเรื่องนี้ละ โมฮัมเหม็ด ลาติฟ ไปเอาจักรยานมาให้หน่อยสิ ”
ญาติผู้ยากจนลุกขึ้น เขาอยู่ในโลกแห่งสสารเพียงแค่ผิวเผิน จึงแค่วางมือบนอานจักรยาน ขณะที่คนรับใช้เป็นคนออกแรงเข็น ทั้ง สองคนช่วยกันประคองจักรยานไปทับหมุดต�ำล้อ อาศิศยื่นมือรอง ใต้เหยือกน�้ำ เช็ดมือให้แห้ง สวมหมวกสักหลาดสีเขียว และแล้ว ด้วยพละก�ำลังเกินคาด เขาถีบจักรยานฉิวออกจากบริเวณบ้านของ ฮามิดุลลาห์
“ อาศิศ อาศิศ ใจร้อนจังเลยนะ ...” แต่เขาปั่นลงไปถึงบาซาร์ แล้วด้วยความฉุนเฉียว เขาไม่มีไฟหน้าหรือกระดิ่ง แถมไม่มีเบรก ด้วย แต่อุปกรณ์แบบนั้นมีประโยชน์อะไรเล่าในดินแดนที่ความหวัง เดียวของนักปั่นคือการได้ปล่อยให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆ และกว่าจะไป ชนอะไรเข้า ความหวังก็อันตรธานไปนานก่อนหน้านั้นแล้ว นอกจากนี้ เมืองทั้งเมืองก็ออกจะโล่งโถงในยามนี้ พอยางล้อแบน เขาก็กระโจน ลง แล้วตะโกนเรียกรถม้ารับจ้างตองกา
ตอนแรกก็ไม่เจอสักคัน แถมยังต้องเอาจักรยานไปฝากบ้าน เพื่อนก่อนด้วย เขาโอ้เอ้อีกหน่อยด้วยการแปรงฟัน แต่ในที่สุดก็นั่ง รถม้าวิ่งลิ่วไปทางละแวกพลเรือนด้วยความเร็วชวนตื่นใจ เมื่อเข้าสู่ บริเวณที่เป็นระเบียบแต่แห้งแล้ง ความหดหู ่ก็จู ่โจมเข้าจับใจ ถนนซึ่ง ตั้งชื่อตามนายพลผู ้รบชนะตัดขวางกันเป็นตาราง เป็นสัญลักษณ์ของ โครงข่ายที่อังกฤษครอบไว้ทั่วอินเดีย เขารู ้สึกเหมือนติดอยู ่ในตาข่าย
27