ตามรอยอาทิตย์อุทัย : แผนสร้างชาติไทยสมัยคณะราษฎร | Page 21
นุ่มนนท์ (พ.ศ. ๒๕๒๐) และบุปผา ทิพย์สภาพกุล (พ.ศ. ๒๕๒๙) เห็น
ว่าจอมพล ป. ต้องการสร้างลัทธิทหารนิยม ลัทธิชาตินิยม เพื่อรักษา
อ�ำนาจทางการเมืองของตนเอง ทั้งมีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่
ไร้เหตุผล ส่งผลให้วัฒนธรรมไทยมีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก
ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม
อีกทั้งรัฐบาลยังปลุกระดมมติมหาชนด้วยการปลุกเร้าให้ประชาชนเข้าใจ
ว่าไทยอยู่ในยุคใหม่ ไทยก�ำลังจะเป็นชาติอารยะทางวัฒนธรรมและ
เศรษฐกิจ ๑๕
อย่างไรก็ตาม โยชิฟูมิ ทามาดะ (Yoshifumi Tamada) (พ.ศ.
๒๕๓๗) เห็นว่าการศึกษาการบริหารของรัฐบาลจอมพล ป. โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง การด�ำเนินนโยบาย “สร้างชาติ” มักถูกศึกษาในบริบทของ
สงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นส�ำคัญ ด้วยเหตุนี้ เนื้อหาสาระของนโยบาย
สร้างชาติที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ จึงถูกตีความหมาย
ไปในลักษณะชาตินิยมและการมุ่งท�ำสงครามของรัฐบาลเผด็จการ
ฟาสซิสต์
แต่แท้จริงแล้ว เขาเห็นว่านโยบายสร้างชาติคือแนวทางการพัฒนา
ประเทศ (National development) ของรัฐบาลจอมพล ป. ที่เกิดขึ้น
ก่อนสงคราม ทั้งนี้ นโยบายสร้างชาติมีจุดมุ ่งเน้นส�ำคัญ คือการปรับปรุง
การศึกษา การสร้างวัฒนธรรมแห่งชาติ และการสร้างกองทัพ เพื่อท�ำให้
มหาอ�ำนาจตะวันตกเกรงใจไทย ๑๖
นอกจากนี้ ทามาดะเห็นว่านโยบายทางวัฒนธรรมอันเป็นส่วน
หนึ่งของการสร้างชาติของรัฐบาลจอมพล ป. ในช่วงก่อนสงครามโลก
ครั้งที่ ๒ คือการสร้างความชอบธรรมให้กับการปกครองของระบอบใหม่
นั่นเอง เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนเป็นองค์ประกอบส�ำคัญ
ของชาติ ดังนั้น รัฐบาลจึงเน้นการพัฒนา “ชาติ” ขึ้นเพื่อให้เกิดความ
เสมอภาคระหว่างประชาชน ดังนั้น ชาตินิยมใหม่ของรัฐบาลคือความ
ตามรอยอาทิตย์อุทัย 13