ตามรอยอาทิตย์อุทัย : แผนสร้างชาติไทยสมัยคณะราษฎร | Page 17
ประวัติศาสตร์ว่าด้วยการพัฒนาประเทศไทยไว้ห้วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่ง
ห้วงเวลานั้นคือห้วงเวลาแห่งการพัฒนาประเทศในช่วงภายหลังปฏิวัติ
๒๔๗๕ ที่ไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ห้วงเวลาดังกล่าวยังถูกศึกษาไม่มากนัก ดังเช่น ผาณิต
รวมศิลป์ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ศึกษาประวัติศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
ของไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม (พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๔๘๗)
William Swan (พ.ศ. ๒๕๒๙) ศึกษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง
ญี่ปุ่น-ไทยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๗-๒๔๘๕ ส่วนสุภาภรณ์ จรัลพัฒน์ (พ.ศ.
๒๕๓๒) ศึกษาประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นช่วง
พ.ศ. ๒๔๖๓-๒๔๘๓ และพรรณี บัวเล็ก (พ.ศ. ๒๕๔๐) ศึกษาบทบาท
ญี่ปุ่นกับการค้าและการลงทุนในไทยระหว่างสงครามโลกครั้ง ๑-๒ ๗
ซึ่งงานวิจัยเหล่านี้เป็นการศึกษาที่ให้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีคุณูปการ
อย่างยิ่งส�ำหรับการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในสมัยต่อมา
อย่างไรก็ตาม เหตุที่การพัฒนาประเทศไทยช่วงหลังการปฏิวัติ
๒๔๗๕ ได้รับความสนใจน้อยจากนักวิชาการ เนื่องจากมีความเชื่อกัน
ว่า “คณะราษฎรมีความกระจ่างเพียงการล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิ
ราชย์ลง แต่ในทางเศรษฐกิจนั้นว่างเปล่า” ๘ กล่าวอีกอย่างคือ ช่วงสมัย
เวลานั้นไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยส�ำคัญ หรือหากมีการอธิบาย
การพัฒนาประเทศไทยภายหลัง ๒๔๗๕ อยู่บ้างก็มักถูกอธิบายผ่าน
เค้าโครงการเศรษฐกิจ (พ.ศ. ๒๔๗๖) ของปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็น
แนวทางสังคมนิยมที่ไม่ประสบความส�ำเร็จ และถึงแม้ว่าในเวลาต่อมา
จะเกิดแนวทางการพัฒนาประเทศใหม่ขึ้น หรือเรียกกันต่อมาว่า “สร้าง
ชาติ” ก็ตาม แต่แนวทางการพัฒนาดังกล่าวมักถูกสรุปรวมไว้กับผลงาน
รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในลักษณะความคลั่งชาติ ความไร้
เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่น่าขบขัน และน�ำไปสู่ข้อ
สรุปของสังศิต พิริยะรังสรรค์ (พ.ศ. ๒๕๒๖) ว่า การพัฒนาประเทศ
ตามรอยอาทิตย์อุทัย 9