ตามรอยอาทิตย์อุทัย : แผนสร้างชาติไทยสมัยคณะราษฎร | Page 15
น�ำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมที่อ�ำนวยความสะดวกจาก
ประเทศทุนนิยมศูนย์กลาง (Core) ในยุโรปเท่านั้น โดยปล่อยให้การ
ประกอบการทางเศรษฐกิจตกอยู่ในมือชาวต่างชาติ เช่น ชาวตะวันตก
ผู้เป็นเจ้าอาณานิคม และชาวจีน
ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกันนี้ ไทยจึงตกอยู่ในฐานะเป็น
เพียงประเทศชายขอบ (Periphery) เป็นผู้ผลิตสินค้าการเกษตรป้อน
ความต้องการของประเทศทุนนิยมศูนย์กลางในยุโรปเท่านั้น แม้เศรษฐกิจ
ของไทยจะเริ่มเปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบพอยังชีพไปสู่เศรษฐกิจแบบ
การค้า เกิดการหมุนเวียนของระบบเงินตรา การตลาด และมีผู ้ประกอบ
การค้าบ้างก็ตาม แต่โดยภาพรวมแล้ว การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยยัง
คงมีความอ่อนแอ ไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะสามารถด�ำรงความเป็นอิสระ
จากประเทศทุนนิยมศูนย์กลางได้๒ หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ เศรษฐกิจ
การค้าของไทยที่ก่อตัวขึ้นจากการส่งออกแต่เพียงวัตถุดิบขั้นปฐมภูมินั้น
ไม่สามารถเป็นสาเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงในรากฐานการผลิตของสังคม
ไทยให้มีความก้าวหน้าขึ้นได้๓
ทั้งนี้ นักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจที่ศึกษาแนวทางการพัฒนา
ประเทศไทยที่ผ่านมาทั้งฉัตรทิพย์ นาถสุภา และสุธี ประศาสน์เศรษฐ
(พ.ศ. ๒๕๒๗) ต่างวิจารณ์แนวทางการพัฒนาประเทศในระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ว่า การพัฒนาประเทศเวลานั้นประสบความ
ล้มเหลวในการสร้างผลิตภาพให้กับการเกษตร การพัฒนาอุตสาหกรรม
รวมทั้งการสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมพื้นฐานให้กับไทย และ
การพัฒนาการศึกษาก็มุ่งแต่เพียงการผลิตคนเข้ารับราชการเท่านั้น ๔
เช่นเดียวกับพรรณี บัวเล็ก (พ.ศ. ๒๕๔๓) ที่เห็นว่าแม้ชนชั้นปกครอง
จะสร้างความเจริญก้าวหน้าของไทยตามแบบตะวันตกด้วยการรวมศูนย์
อ�ำนาจ และน�ำเข้าเทคโนโลยีโดยมีเป้าหมายหลักทางการปกครองเป็น
ส�ำคัญ แต่พวกเขากลับมิได้เป็นแกนน�ำในการเปลี่ยนแปลงการผลิต
ตามรอยอาทิตย์อุทัย 7