ที่ส�ำคัญ ทั้ง 10 โครงการในปัจจุบันต่างก็ สามารถสร้างรายได้เป็นไปตามเป้าที่ก�ำหนด อีก ทั้งคาดว่า ปี 2561 รายได้ในภาพรวมจะขยับถึง 3,500 ล้านบาท หรือเติบโตราว 17 % จากปัจจัย การพัฒนาและปรับปรุงศูนย์การค้าในเครือ รวม ถึงการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวที่จะเป็นหัวใจ ส�ำคัญ
ณภัทรกล่าวต่อไปว่า“ ในปี 2561- 2562 กลุ ่มนี้มีแผนพัฒนาโครงการของตนเอง ด้วยงบ ลงทุนทั้งสิ้น 8,200 ล้านบาท โดยมีแผนจะปรับ พื้นที่ของแต่ละศูนย์ฯ ให้สามารถเติมเต็มไลฟ์ สไตล์ลูกค้าในยุคปัจจุบันได้เต็มรูปแบบยิ่งขึ้น โดยอยู ่ระหว่างการปรับโฉมและคาดว่าจะแล้ว เสร็จในปี 2561 ได้แก่ พันธุ ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และบางกะปิ งบลงทุนแห่งละ 50 ล้านบาท, บ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน ซึ่งจะปรับเป็น คอมมูนิตี้ มอลล์แนวใหม่ งบลงทุน 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังใช้งบเพื่อการพัฒนาโครงการ ประกอบด้วย ลาซาล 500 ล้านบาท, ศูนย์การค้า เกตเวย์ บางซื่อ 4,000 ล้านบาท, ตะวันนา บางพลีและ พระราม 2 จ�ำนวน 1,000 ล้านบาท และ 2500 ล้านบาทตามล�ำดับ”
เอเชียทีค ตอกย�้ำ
ผู ้น�ำธุรกิจท่องเที่ยวริมน�้ำ
ความส�ำเร็จของ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ที่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย อาทิรางวัล‘ People’ s Choice Award 2017’ สาขาแหล่ง ท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งจัดขึ้นโดยการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย( ททท.) นั้นช่วยเกื้อหนุนให้ เอเชียทีคกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญของไทย ประกอบกับการพัฒนาให้เอเชียทีคมีความสดใหม่ ทั้งการเติมร้านค้าและร้านอาหารเปิดใหม่กว่า 50 ร้าน อาทิ ร้าน Wine I Love You ร้านอาหารไวน์ ชื่อดัง, ร้านลู ่กัง คาเฟ่ร้านอาหารสัญชาติจีนระดับ อินเตอร์แห่งแรกในไทยที่รวมอาหารจานเด่นของ แต่ละเมืองในจีนและไต้หวัน โดยแต่ละร้านมีจุด เด่นที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า และนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่มอย่าง เต็มที่
มานพ ค�ำสว่าง ผู ้จัดการบริหารทรัพย์สิน แบรนด์เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ มั่นใจ ว่า จ�ำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในโครงการจะ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะทะลุเป้า 12 ล้านคน ภายในปี 2560 ทั้งจากการพัฒนา โครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอด 2 ฝั่งแม่น�้ำ เจ้าพระยาจ�ำนวนมาก ซึ่งสะท้อนโอกาสทาง ธุรกิจของย่านนี้ พร้อมจับมือกับพันธมิตรธุรกิจ ริมน�้ำเจ้าพระยาทุกราย เพื่อร่วมกันพัฒนา ศักยภาพทางธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจ MICE รวมทั้งการช่วยผลักดันสู ่การเป็นหนึ่งใน Global Destination
“ คาดว่า ปี 2561 เราจะมี Traffic จาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ 70 % โดยเฉพาะจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี และอินโดนีเซีย พร้อม ทั้งมีแผนสร้างสีสัน เพื่อตอกย�้ำความเป็นผู ้น�ำ ธุรกิจรีเทลริมน�้ำ อาทิ การต่อเรือใบสามเสา สัญลักษณ์ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง ไทย-อารยประเทศ ตอกย�้ำความเป็นท่าเรือ พาณิชย์นานาชาติแห่งแรกของสยามที่พร้อมจะ น�ำความยิ่งใหญ่ด้านความรุ ่งเรืองในสมัยรัชกาล ที่ 5 ให้กลับมาปรากฏอีกครั้ง พร้อมยกระดับ Product Mix ด้วยสินค้าแบรนด์ดัง ตอบสนอง ทุกไลฟ์สไตล์ เช่น Beautrium ร้าน Beauty Mega Store ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศวัย,
Owndays Chain ร้านแว่นตาคุณภาพสุดฮิป จากญี่ปุ ่น, Watsons ผู ้น�ำร้านเพื่อสุขภาพและ ความงามของไทยและเอเชีย, Watch Station ร้านนาฬิกา Multi-Brand Store ฯลฯ”
เกตเวย์ เอกมัย
โตจี ๊ด 15 % รุกกลุ ่มครอบครัว
ในบรรดาแบรนด์ศูนย์การค้า เกตเวย์ เอกมัยถือเป็น“ ตัวจี๊ด” ที่มีอัตราการเติบโต สูงสุดถึง 15 % จากปี 2559 ด้วย Traffic 8,000 คน / วันเป็น 2.5 หมื่นคน / วันและมีอัตราการเช่า พื้นที่มากถึง 97 % โดยเป็นผู ้เช่าหน้าใหม่ที่ตอบ โจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แต่ยังคงความเป็นญี่ปุ ่น อาทิ Pepper Lunch ร้านสเต็กสไตล์ญี่ปุ ่น แบรนด์ จากญี่ปุ ่น, SunCosmate ศูนย์รวมเครื่องส�ำอาง แบรนด์ชั้นน�ำจากทั่วโลกที่จ�ำหน่ายในราคา พิเศษ, Homepro S สโตร์รูปแบบใหม่ของโฮม โปร, Bunka Fashion School โรงเรียนสอน ออกแบบแฟชั่นจากญี่ปุ ่น ฯลฯ
ราชพฤกษ์ อุบลศรี ผู้จัดการบริหาร ทรัพย์สิน แบรนด์เกตเวย์ เอกมัย และ เซ็นเตอร์พ้อยท์ ออฟ สยามสแควร์ คาดราย ได้เกตเวย์ เอกมัยว่า น่าจะอยู ่ที่ 338 ล้านบาท หรือ + 15 % ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เข้ม ข้น เกตเวย์ต้องสร้างความแตกต่างและขยาย
B-CONNECT MAGAZINE 07