Flash ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 กันยายน-ตุลาคม 2554 | Page 71
ถ้าแปลแบบยียวนตามประสาคนรุ่นใหม่ “ภู”
ก็เข้าใจได้ว่า คือภูเขา ส่วน “เก็ต” อาจจะต้องเดา
ว่า “Get” ซึ่งหมายถึง เข้าใจ
แต่ เ มื อ งเขามี ที่ ม า แถมยั ง หลงเหลื อ งาม
งดงามล�ำค่าให้เราไปชม เกินทีใครจะคาดเดา หรือ
้
่
สรุปกันไปเอง
จากการสืบค้นพบว่า ค�ำว่า “ภูเก็ต” น่าจะ
เพี้ยนมาจากค�ำว่า บูกิต (ในภาษามลายูแปลว่า
ภูเขา) หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม เมืองถลาง
เดิมค�ำว่า ภูเก็ต นั้นใช้ค�ำว่า “ภูเก็จ” อันแปลว่า
“เมืองแก้ว” จึงมีการใช้ตราเป็นรูปภูเขา(ภู)ที่มี
ประกายแก้ว(เก็จ)เปล่งออกเป็นรัศมี ตรงกับความ
หมายเดิมซึ่งชาวทมิฬเรียก “มณิครัม” ตามหลัก
ฐาน พ.ศ. 1568 ภูเก็ตเป็นทีรจกของนักเดินเรือทีใช้
่ ู้ ั
่
เส้นทางระหว่างจีนกับอินเดีย โดยผ่านแหลมมลายู
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ หนังสือภูมิศาสตร์และ
แผนที่เดินเรือของคลอดิอุส ปโตเลมี เมื่อประมาณ
พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทางจากแหลมสุวรรณภูมิ
ลงมาจนถึงแหลมมลายู ซึงต้องผ่านแหลม จังซีลอน
่
หรือเกาะภูเก็ต (เกาะถลาง)
ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ท�ำให้ภเู ก็ตมีลกษณะพิเศษทีนอกเหนือจากเกาแก่ง
ั
่
อันสวยงาม ชายหาดทีเ่ ลือกหาความเป็นส่วนตัวได้
รอบทิศ ในตัวเมืองยังมีอาคาร บ้านพักอาศัย ร้านค้า
ต่างๆ สถานทีราชการ หรือส�ำนักงานบริษทเอกชน
่
ั
ที่มีลักษณะที่สวยงาม ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบ
ชิโน-โปรตุกส (Chino-Portuguese Architecture)
ี
ส� ำ หรั บ สถาปั ต ยกรรม “ชิ โ น-โปรตุ กี ส ”
(Chino-Portuguese Architecture) ถือก�ำเนิดขึ้น
ในดินแดนแหลมมลายูในยุคสม