B Connectmag Issue 11 e-Mag-B-Connect-11 | Page 37

ทั ง ้ นี้ ผู บ ้ ริโภคสามารถช�ำระเงินด้วย Bitcoin ได้ส ง ู ถึง 100,000 เยน หรือประมาณ 31,145 บาท ผ่านระบบ Cryptocurrency และ แน่นอนว่าจะได้รับคะแนนสะสมในการซื้อของเหมือนกับเงินสด ทุ ก ประการ ขณะเดีย วกันยังสามารถใช้บ ริการหักเงิน จากบัญช Bitcoin โดยตรง เพราะมีระบบ Coincheck ที่จะเปลี่ยนสกุลเงิน Bitcoin เป็ น สกุ ล เงิ น เยนของญี่ ปุ ่ น และโอนเงิ น ไปยั ง ร้ า นนั้ น ๆ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การช�ำระเงินโดย Bitcoin ที่หักโดยตรงจาก บัญชี สามารถใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และยังสามารถ ใช้ร่วมกับบริการของ Alipay ได้ด้วย เพื่อเอื้อต่อนักท่องเที่ยวจีน ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาญี่ปุ่น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าเครื่องช�ำระเงินผ่าน Bitcoin จะตั้ง อยู่ในร้านอาหารของญี่ปุ่นถึง 260,000 แห่งในช่วงฤดูร้อนปีน ส่วนในขณะนี้เริ่มทยอยตั้งตามร้านต่างๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร โดยในปัจจุบันมีร้านค้าประมาณ 4,500 แห่งในญี่ปุ่นที่รับ Bitcoin ซึ่งตรงนี้จะเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึง การกระตุ้นให้จ�ำนวนผู้ใช้ Bitcoin ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่า หากญี่ปุ่นท�ำเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็จะส่งผลดีต่อนักท่องเที่ยว จากฝั่งตะวันตกด้วยที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นและช�ำระ เงินได้โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินอีกเลย กลโกงที่มาพร้อมกับความมั่งคั่ง (จอมปลอม) อย่ า งไรก็ ต าม หากพิ จ ารณาจากข้ อ มู ล ข้ า งต้ น ดู จ ะสร้ า ง ความเย้ายวนใจส�ำหรับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น “Bitcoin” หรือสกุลชื่อแปลกๆ ใหม่ๆ ไม่มากก็น้อย แต่ทั้งนี้ก็อย่าง ที่ ก ล่ า วไปแล้ว ว่าความผันผวนของเงินดิจิทัลคือเรื่องหนึ่งที่ต้อง ตระหนัก ทว่ายังมีอีกส่วนที่ต้องระวังอย่างยิ่งแก่คนที่อยากกระโดดเข้ามา ร่วมแจมกับความมั่งคั่งใหม่นี้ โดยเฉพาะเรื่องของกลโกงต่างๆ ที่พูด เช่นนี้ เพราะในปัจจุบัน ตามโซเชียลเน็ตเวิร์กและเว็บบอร์ดต่างๆ มี “นักลงทุนเงินดิจิทัล” ออกมาโพสต์ถ่ายทอดความร�่ำรวยที่ได้จาก การลงทุน จนหลายๆ คนที่ไม่เคยรู้จักนึกสนใจอยากรวยแบบนี้บ้าง แน่นอนว่า ด้วยราคาของ Coin ประเภทต่างๆ ถูกหยิบมาเป็น โมเดลขายฝันที่ถูกผู้ที่ตั้งตัวเป็น “ผู้หวังดี” ชักชวนคนอื่นมาลงทุน แบบแบ่งกันรวย ซึ่งคนกลุ่มนี้จะปั้นตัวเองขึ้นมาใหม่หรือเรียกว่าเพิ่ง ตั้งไข่ในวงการเงินดิจิทัลแบบที่ลองไปค้นข้อมูลกันลึกๆ แล้วแทบจะ ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก คนกลุ ่ ม นี้ จ ะชั ก ชวนคุ ณ มาลงทุ น ในเงิ น ดิ จิ ทั ล ของเขาเอง ซึ่งจะท�ำการเชิญชวนผ่านหลายช่องทาง ทั้งการชวนเพื่อนฝูงญาติพ น้อง การชวนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ แม้แต่รูปแบบของการเปิด สัมมนาตามสถานที่ต่างๆ ทั้งโรงแรม ส�ำนักงานหรู โดยมีวิทยากรท ดูน่าเชื่อถือคอยมาโน้มน้าว แต่สุดท้าย ถ้าได้ศึกษาหาความรู้ไว้เบื้องต้น และตั้งสติในการ ไตร่ตรองดูก็จะพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ทั้งหลายแท้จริงแล้ว อาจจะ เป็น “มิจฉาชีพ” ที่มาเปิดประตูออกล่าเหยื่อ ซึ่งทุกคนทุกฐานะ ก็ล้วนมีสิทธิ์ตกเป็นเหยื่อได้ ไม่ใช่จ�ำกัดว่าต้องเป็นระดับนักลงทุน ฟินแลนด์ที่โดนนายแบบชื่อดัง บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ตุ๋นเงินกว่า 700 ล้านบาทอย่างที่โด่งดังไปก่อนหน้านี้เท่านั้น เพราะกลโกงของคนเหล่านี้ จะมีตั้งแต่การใช้หลักการเดียวกัน กั บ แชร์ ลู ก โซ่ ม าหลอกลวง แต่ อ ้ า งว่ า เป็ น การลงทุ น เงิ น ดิ จิ ทั ล ให้ดูน่าเชื่อถือ ก็คือ เปิดให้มาร่วมลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงๆ ยิ่งถ้า ชักชวนคนมาเข้าร่วมได้มากก็จะมีผลตอบแทนเพิ่ม เดือนแรกๆ ก็ได เงินปันผลสูงตามสัญญา ยั่วยวนใจให้หาเงินมาลงทุนเพิ่ม พอผ่านไป สักพักก็หายเข้ากลีบเมฆ ซึ่งกรณีล่าสุดที่ถูกต�ำรวจจับได้ความเสีย หายก็ระดับร้อยล้านบาท ผู้เสียหายกว่า 50 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ม ความรู้เรื่องธุรกิจและเงินดิจิทัลมาก่อน อีกวิธ ค ี อ ื ใช้คนที ม ่ ช ี อ ื่ เสียงมาชักจูงโดยมุ ง ่ ไปหาคนที ม ่ ก ี ระเป๋าหนัก ซึ่งอาจจะมีความรู้ด้านธุรกิจบ้าง แต่ “ไม่เท่าทันโจร” ที่อาศัยความ ซับซ้อนของเทคโนโลยีในส่วนนี้ และอาศัยเครดิตดั้งเดิมมาหลอกล่อ โชว์แผนธุรกิจที่น่าเชื่อถือ แต่จริงๆ ก็คือการโกงกันนั่นเอง ฉะนั้น จึ ง ต้ อ งบอกกั บ ทุ ก ผู ้ ค นที่ ส นใจไว้ ด ้ ว ยประโยคคลาสสิ ค เลยว่ า “การลงทุ น มี ค วามเสี่ ย ง ผู ้ ล งทุ น ควรศึ ก ษาข้ อ มู ล ก่ อ นตั ด สิ น ใจ ลงทุน” ธปท.แจง ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนก้าวสู่สนามคริปโต อย่างไรก็ตาม เรื่องของความมั่งคั่งไม่เข้าใครออกใคร แต่อย่าง น้อยๆ ก่อนจะลงทุนอะไร ก็ต้องดูทิศทางลมของประเทศที่เราไป ลงทุนกันก่อน อย่างในบ้านเราเอง ก่อนหน้านี้ ทาง ธปท.แจงความ เข้าใจผิด 3 ประการ โดย วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ถ้าพูดถึง Cryptocurrency หรือเงินคริปโต ผมคิดว่าขณะน เรายังมีความเข้าใจผิดอย่างน้อย 3 ประเด็นส�ำคัญที่อันตรายมาก ประเด็นที่ 1 เข้าใจผิดว่า “Cryptocurrency” เป็น “สกุลเงิน” เพราะถ้าดูเผินๆ อาจเข้าใจว่าเป็น “เงิน” หรือ “สกุลเงินใหม่” แต่แท้จริงแล้ว “Cryptocurrency” ขาดคุณสมบัติที่ส�ำคัญของเงิน อย่างน้อย 2 ข้อ 1.ไม่ได้เป็นสื่อกลางที่ใช้ในการช�ำระเงินในวงกว้าง วันนี้อาจม บางร้านค้ารับคริปโต แต่ต้องใช้เวลานานในการยืนยันรายการ และ การโอนกระเป๋าเงินดิจิทัลจากกระเป๋าหนึ่งสู่อีกกระเป๋ามีค่าใช้จ่าย สูง Cryptocurrency จึงมักถูกใช้ส�ำหรับธุรกรรมที่ผิดกฎหมายหรือ ธุรกรรมฟอกเงิน ที่ต้องการหลบเลี่ยงการตรวจสอบของภาครัฐ B-CONNECT MAGAZINE 35